หลายคนที่ไม่ได้มีอาการอะไร แต่ที่ไปตรวจสุขภาพประจำปี แลัวหมอบอกว่า เป็นโรคไขมันพอกตับ โรคตับ เรามักจะคุ้นเคยว่า มักจะเกิดในคนที่ดื่มเหล้ามากๆ แต่โรค ก็สามารถพบได้ในคนที่ไม่ได้ดื่มเหล้าได้ และพบได้บ่อยด้วย มาทำความรู้จักวิธีการจัดการไขมันที่มันแทรกในตับกันว่า เราจะจัดการอย่างไร
ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก โรคไขมันพอกตับ หรือ fatty liver กันสักนิดนะครับ โรคไขมันพอกตับ เป็นภาวะที่ เนื้อตับมีไขมันแทรกมากกว่าปกติ ฟังดูเหมือนไม่น่ากลัวอะไร แต่ โรคนี้มีความสำคัญอยู่2ประการครับ
ประการแรก ผู้ป่วยที่มีไขมันพอกตับ บางคน อาจจะเกิด การอักเสบของเนื้อตับแบบเรื้อรัง เนื้อตับเกิดการตาย กลายเป็นพังผืด และมีโอกาส?ี่จะเกิดตับแข็ง ตับวาย รวมทั้ง โรคมะเร้งตับได้
ประการที่สอง โรคไขมันพอกตับ เป็นสัญญาณอันหนึ่งว่า ร่างกายมีภาวะการเผาผลาญบางอย่างที่ผิดปกติ ที่เรียกว่า ภาวะดื้อต่ออินซูลิน
ภาวะดื้ออินซูลิน ต้นเหตุของ ไขมันพอกตับ
เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่า ทำไม อินซูลินถึงมีผลทำให้ไขมันมาพอกตับ มาทำความรู้จัก อินซูลินกันสักนิดนะครับ โดยทั่วไป อินซูลินมีหน้าที่ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้น หลังจากที่คนเรา กินอาหาร ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะสูงขึ้น ตับอ่อนก็จะถูกกระตุ้นให้สร้างอินซูลินมากขึ้น อินซูลิน ก็จะไปลดระดับน้ำตาลโดย การดึงน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นนี้ เอาไปเผาผลาญในกล้ามเนื้อ แต่ถ้าน้ำตาลในเลือดมันมากเกิน อินซูลินก็จะดึงน้ำตาลที่เหลือใช้ไปสะสมในตับ หรือตามใต้ผิวหนัง ในรูปแบบไขมันรอบพุง ที่เรียกกันว่า อ้วนลงพุง ทีนี้ปัญหาก็เกิดขึ้น ในคนที่มีภาวะที่ เซลล์กล้ามเนื้อ ไม่ตอบสนอง ไม่เชื่อฟังอินซูลิน ที่เรียกว่า ภาวะ ดื้อต่ออินซูลิน น้ำตาลในเลือดจึงไม่ถูกดึงมาใช้หรือเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานที่กล้ามเนื้อได้ จึงเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสะสมสูง น้ำตาลที่สูงยิ่งไปกระตุ้นตับอ่อนให้มีการสร้างอินซูลินมากยิ่งขึ้นไปอีก อินซูลินที่สูงมากๆ บวกกับน้ำตาลในเลือดที่สูง จึงเกิดปรากฎการณ์ที่มีการเปลี่ยนพลังงานที่เหลือใช้ ไปเป็น ไขมันสะสมที่ตับ สะสมรอบๆพุงมากขึ้น
ภาวะดื้อต่ออินซูลินนี้ ยังเป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่า ผู้ป่วยที่มี ไขมันพอกตับนี้ มีแนวโน้มที่จะเกิด โรคทางหลอดเลือด โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือ อัมพาต รพร้อมๆกับการเกิดโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หรือ ความดันโลหิตสูงตามมาอีกด้วย
ทำไมไขมันถึงมาพอกที่ตับเยอะ?
การเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินนี้ มักจะเริ่มจากพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม และ การไม่ออกกำลังกาย ใช้วิถีชิวิตนั่งทำงานทั้งวัน sedentary lifestyle
การกินอาหารที่มากเกินไป ก็คือพลังงานที่มากเกินไป ก็เกินพลังงานที่เหลือใช้ ยิ่งคนที่มีการใช้พลังงานลดลง เช่น ผู้สูงอายุ มีมวลกล้ามเนื้อน้อยลง การเผาผลาญลดลง , คนที่ดื่มเหล้าประจำ, คนที่ใช้ชีวิตแบบไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย (sedentary lifestyle) ไม่ค่อยออกกำลังกาย พลังงานที่เหลือใช้นี้ก็จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมัน และถูกเก็บสะสมในส่วนต่างๆของร่างกาย หลายคนเข้าใจว่า เกิดจากการกินอาหารมันๆเท่านั้น ไม่ใช่นะครับ อาหารทุกประเภท ยิ่งอาหารพวกแป้ง ของหวาน การดื่มเหล้า ถ้ากินเยอะเกิน แต่ใช้น้อย อาหารเหล่านี้ก็จะกลายเป็นพลังงานที่เหลือใช้ เหมือนกันหมด
ไขมันที่เกินนี้ ร่างกายก็จะเอาไปเก็บไว้ ในรูปแบบไขมันใต้ผิวหนังรอบๆพุง ที่เรียกกันว่า อ้วนลงพุง อันนี้เป็นไขมันที่เราเห็นได้ด้วยตา แต่ร่างกายยังจะเก็บไขมันที่เกินนี้ในร่างกาย ในอวัยวะในช่องท้อง ด้วย โดยเฉพาะในเนื้อตับ ดังนั้นคนที่อ้วนลงพุง คนที่มีไขมันหน้าท้องเยอะๆ ก็ให้คิดเสมอนะครับว่า ในเนื้อตับก็น่าจะมีไขมันสะสมมากขึ้นตามไปด้วย
รู้ได้อย่างไรว่าเราเสี่ยงที่จะมีไขมันพอกตับ?
การดูว่าเรา อ้วนลงพุงไหม คือวิธีที่ง่ายและสามารถทำเองได้ ยิ่งมีไขมันรอบพุงมาก เราก็จะยิ่งมีไขมันสะสมในอวัยวะช่องท้องมากตามไปด้วย วัดรอบพุงในท่ายืนตรง วัดระดับสะดือ ผู้หญิงไม่ควรจะเกิน 80ซม หรือ 31นิ้วครึ่ง ส่วนผู้ชายก็ไม่ควรเกิน 90ซมหรือ 34นิ้วครึ่ง